การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หรือ อีโค ทัวร์ คือ การบริหารจัดการการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนแก่นของการเที่ยวรูปแบบนี้จึงไม่เพียงแค่ความเพลิดเพลินไปกับความสมบูรณ์ของระบบนิเวศเบื้องหน้า หากรวมถึงการปลูกฝังจิตสำนึกความรับผิดชอบให้กับนักท่องเที่ยวผ่านประสบการณ์การเดินทาง หรือ กิจกรรมที่มีส่วนร่วมศึกษาและพัฒนาอย่างยั่งยืน
เรียกได้ว่า หากมีโอกาสได้ท่องเที่ยวแนวนี้ดูสักครั้ง หัวใจของคุณจะเต็มไปด้วย“ความรัก” ซึ่งหมายถึง ความรักที่มีต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเอง
Lonely Planet Traveller (Thailand) คัดสรร 5 สุดยอดแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศของไทย ซึ่งยกให้เป็นที่สุดแห่งปี จากรางวัล LP Recommendations Awards ดังต่อไปนี้
1.บ่อหินฟาร์มสเตย์

ภาพจาก : http://lptraveller.meithailand.com/post/w29QjHN-5-----/2
ถ้าย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของ “บ่อหินฟาร์มสเตย์” ในหมู่บ้านบ่อหิน อาจเจือความเศร้าอยู่บ้างเล็กน้อย เพราะมีทั้งเรื่องผลกระทบจากภัยธรรมชาติสึนามิ และวิกฤตเศรษฐกิจของชาวประมงพื้นบ้าน
ที่เลี้ยงปลาในกระชัง
แต่ปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไข แล้วเปลี่ยนเป็นความสุขและรอยยิ้มได้ด้วยการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสสร้างสรรค์นำทรัพยากรที่มีในชุมชนพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวรูปแบบฟาร์มสเตย์เชิงอนุรักษ์ เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนจากต่างถิ่นเข้ามาเรียนรู้วิถีชาวประมง ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศพื้นที่ป่าชายเลนริมทะเล

ชาวบ้านรวมตัวกันในนามวิสาหกิจชุมชนบริหาร จัดการการท่องเที่ยวมีจุดขายสำคัญ คือ ให้ นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมนั่งเรือหางยาวลัดเลาะไป ตาม
ป่าพรุ ชมบ่อน้ำร้อน สีฟ้าใส พักผ่อน หย่อนใจไปบนสันดอนทรายริมทะเลชมแสงสุดท้ายของวัน
ส่วนโปรแกรมไฮไลต์คือ การให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมปลูกป่าโกงกางเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ หรือกิจกรรมอันเป็นเอกลักษณ์อย่างการปลูกหญ้าทะเล พืชที่มีความสำคัญในการสร้างความสมดุลทาง
ธรรมชาติแก่ท้องทะเลตรัง
ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง ติดต่อโทร. 08-1892-7440
เรียกได้ว่า หากมีโอกาสได้ท่องเที่ยวแนวนี้ดูสักครั้ง หัวใจของคุณจะเต็มไปด้วย“ความรัก” ซึ่งหมายถึง ความรักที่มีต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเอง
Lonely Planet Traveller (Thailand) คัดสรร 5 สุดยอดแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศของไทย ซึ่งยกให้เป็นที่สุดแห่งปี จากรางวัล LP Recommendations Awards ดังต่อไปนี้
1.บ่อหินฟาร์มสเตย์
![]() |
ภาพจาก : http://lptraveller.meithailand.com/post/w29QjHN-5-----/2 |
ถ้าย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของ “บ่อหินฟาร์มสเตย์” ในหมู่บ้านบ่อหิน อาจเจือความเศร้าอยู่บ้างเล็กน้อย เพราะมีทั้งเรื่องผลกระทบจากภัยธรรมชาติสึนามิ และวิกฤตเศรษฐกิจของชาวประมงพื้นบ้าน
ที่เลี้ยงปลาในกระชัง
ที่เลี้ยงปลาในกระชัง
แต่ปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไข แล้วเปลี่ยนเป็นความสุขและรอยยิ้มได้ด้วยการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสสร้างสรรค์นำทรัพยากรที่มีในชุมชนพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวรูปแบบฟาร์มสเตย์เชิงอนุรักษ์ เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนจากต่างถิ่นเข้ามาเรียนรู้วิถีชาวประมง ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศพื้นที่ป่าชายเลนริมทะเล
![]() |
ชาวบ้านรวมตัวกันในนามวิสาหกิจชุมชนบริหาร จัดการการท่องเที่ยวมีจุดขายสำคัญ คือ ให้ นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมนั่งเรือหางยาวลัดเลาะไป ตาม
ป่าพรุ ชมบ่อน้ำร้อน สีฟ้าใส พักผ่อน หย่อนใจไปบนสันดอนทรายริมทะเลชมแสงสุดท้ายของวัน
ส่วนโปรแกรมไฮไลต์คือ การให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมปลูกป่าโกงกางเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ หรือกิจกรรมอันเป็นเอกลักษณ์อย่างการปลูกหญ้าทะเล พืชที่มีความสำคัญในการสร้างความสมดุลทาง
ธรรมชาติแก่ท้องทะเลตรัง
ธรรมชาติแก่ท้องทะเลตรัง
ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง ติดต่อโทร. 08-1892-7440
2.โฮมสเตย์ท้องตมใหญ่
![]() |
ภาพจาก : http://lptraveller.meithailand.com/post/w29QjHN-5-----/4 |
หลักฐานสำคัญว่าโฮมสเตย์แห่งอำเภอสวี จังหวัดชุมพร เป็นชุมชนต้นแบบสไตล์อีโคทัวร์ ดูได้จากทรัพยากรสัตว์น้ำ ซึ่งมีกุ้งหอยปูปลาที่ไม่ต้องออกเรือไปหาที่ไหนไกล รวมทั้งไฮไลต์อย่างม้าน้ำสัตว์ทะเลที่ไม่อาจหาดูได้ง่าย หากสภาพแวดล้อมขาดความสมบูรณ์ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากแนวคิดอยู่ร่วมกับธรรมชาติ อย่างยั่งยืนและนำไปสู่พิธีกรรม “บวชทะเล” ประเพณีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
ที่ผสานวิถีพุทธกับวิถีการประมงเชิงอนุรักษ์ไว้ด้วยกันกว่า 20 ปีแล้วที่ชุมชน“ท้องตมใหญ่” เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัสกับวิถีชาวประมงพื้นบ้าน ผ่านความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรชายฝั่งอันเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม
ส่วนการท่องเที่ยวไปกับชาวท้องตมใหญ่
จะได้นั่งเรือหางยาวออกไปสู่ท้องทะเล
ดำน้ำชมปะการังตามเกาะแก่ง เช่น
เกาะทองแก้วเกาะมัดหวายใหญ่
หากใครอยากเปลี่ยนเป็น
ชาวประมงฝึกหัด ก็มีกิจกรรมออกไป
ตกหมึกหรืออยากมีส่วนร่วมอนุรักษ์
ก็มีกิจกรรมปลูกป่าชายเลน
และการทำบ้านให้ปลา
ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร โทร. 08-1345-6743
3.ทัวร์กุยบุรี
![]() |
ภาพจาก : http://lptraveller.meithailand.com/post/w29QjHN-5-----/6 |
การเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ต้องมีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไปตามจุดต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและคอยช่วยประสานงานไม่ให้พลาดโอกาสสำคัญในการได้เห็นสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ขณะเดียวกัน ก็มีกฎเกณฑ์ไม่ให้กระทบกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการจำกัดปริมาณคนที่จะเข้าไปซุ่มดูกระทิงหรือช้างป่า ไม่เกิน280 คนต่อวัน
โทร. 032-646-292 , 08-1776-2410
อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
4.โครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย
![]() |
ภาพจาก : http://lptraveller.meithailand.com/post/w29QjHN-5-----/7 |
สนามบินมักทำให้เรานึกถึงอาคารผู้โดยสารสุดโมเดิร์น การออกแบบสถาปัตยกรรมล้ำสมัย แต่สำหรับ สนามบินสุโขทัย ภาพลักษณ์ติดตานักเดินทางคือ “โครงการเกษตรอินทรีย์” ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ราว 800 ไร่ทางทิศตะวันออกของสนามบิน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ
โครงการฯ นี้ไม่ใช่แค่แปลงเกษตรสาธิตสร้างไว้เก๋ๆสำหรับเช็คอินถ่ายรูป แต่เป็นพื้นที่ซึ่งมีระบบเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจรเริ่มตั้งแต่งานวิจัยและพัฒนาการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้ลงสู่ผืนดิน และจบที่ขั้นตอนการแปรรูปผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด
![]() |
ภาพจาก : http://lptraveller.meithailand.com/post/w29QjHN-5-----/8 |
ในด้านการท่องเที่ยวโครงการฯ ข้างสนามบิน เปรียบเหมือนห้องเรียนกลางแจ้งสำหรับศึกษาดูงาน ที่สามารถลงมือปฏิบัติได้จริง จัดโปรแกรมกิจกรรมที่เปลี่ยนให้เรากลายเป็นชาวไร่ชาวนา ผ่านการทำนาปลูกผักผลไม้ในสวนผสม เพาะเลี้ยงกล้วยไม้ เลี้ยงเป็ด ขี่ควาย ทอผ้า ทำเครื่องปั้นดินเผา เก็บดอกบัว ฯลฯ ครบทุกอรรถรสของการได้ลองประสบการณ์เป็นเกษตรกร พร้อมกับเรียนรู้ความสำคัญในวิถีเกษตรอย่างยั่งยืน หรือหากใครอยากนั่งพักสบายๆ ดื่มน้ำใบข้าวเย็นชื่นใจ อิ่ม อร่อยไปกับวัตถุดิบออร์แกนิกจากร้านครัวสุโขทัย ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย โทร. 055 - 647-290
5.เกาะทะลุไอส์แลนด์ รีสอร์ท
![]() |
ภาพจาก:http://lptraveller.meithailand.com/post/w29QjHN-5-----/10 |
กิจกรรมอนุรักษ์ท้องทะเลไทย ผ่านการท่องเที่ยวของ “เกาะทะลุไอส์แลนด์ รีสอร์ท” ที่ส่งไม้ต่อจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ในโครงการจัดการทรัพยากรประมงชายฝั่ง โดยชุมชนอ่าวบางสะพานที่สร้างความสมบูรณ์ให้โลกใต้ทะเล สู่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชวนนักท่องเที่ยวลงดำน้ำปลูกปะการัง เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ทะเลควบคู่การอนุรักษ์เต่ากระ ผ่านมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม ที่ปัจจุบันสามารถปล่อยเต่ากระคืนสู่ท้องทะเลอ่าวไทยได้กว่า 4,000 ตัว ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นตัวอย่างง่ายๆ ของการนำเรื่องท่องเที่ยวมาดูแลทรัพยากร สามารถสร้างรายได้ให้ทั้งรีสอร์ทและคนในชุมชน เมื่อคนในชุมชนและทุกคนได้ประโยชน์ ก็จะเป็นผู้ที่เข้ามาร่วมสอดส่องดูแลทรัพยากรโดยอัตโนมัติ ... นี่ล่ะแนวคิดของรีสอร์ทแห่งนี้ไม่เพียงเท่านั้นทางมูลนิธิยังได้ขยายหัวใจแห่งการอนุรักษ์สู่ชุมชน ในรูปแบบของค่ายเยาวชนเพื่อให้เด็กๆ ได้เห็นว่า การอนุรักษ์เป็นสิ่งที่สามารถลงมือปฏิบัติได้ทันทีด้วยรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อันเป็นผลพลอยได้จากโครงการจัดการทรัพยากรฯ ทำธนาคารปู ปลูกปะการัง เมื่อระบบนิเวศสมบูรณ์ สัตว์ทะเลก็เริ่มกลับมา เต่าที่เคยหายไปกลับมาวางไข่ ผู้ประกอบการก็สามารถใช้การอนุรักษ์มาเป็นจุดขาย เช่น พาลูกค้าไปดำน้ำดูปลา ปลูกปะการัง ชาวประมงก็ได้ประโยชน์จากทะเลที่สมบูรณ์ขึ้น
ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์
โทร.08-9918-3715 (www.taluisland.com)
เอกสารอ้างอิง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. 2544. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโฮมสเตย์. กรุงเทพฯ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศ
บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา. 2542. การวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน. พิมพ์ครั้งที่ 1.
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ศูนย์วิจัยป่าไม้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2538. โครงการศึกษาการท่องเที่ยวเพื่อรักษาระบบนิเวศ :
กรณีภาคใต้. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
กรณีภาคใต้. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติไทย. 2542. รายงานขั้นสุดท้ายการดำเนินการเพื่อกำหนดนโยบาย
การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติไทย.
การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติไทย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น